เรื่องโดย ดร.ภัสร์ชาพร สีเขียว
สภาวะโลกร้อนส่งผลให้สภาพอากาศแปรปรวน ไม่ว่าจะเป็นฤดูฝนที่บางพื้นที่มีฝนตกหนักจนน้ำท่วม ฤดูหนาวที่เดินแล้วยังมีเหงื่อ หรือฤดูร้อนที่ทำสถิติอุณหภูมิสูงขึ้นทุกปี ล่าสุดอุณหภูมิสูงเพิ่มขึ้น 1.18 องศาเซลเซียส และคาดว่าจะสูงถึง 1.5 องศาเซลเซียส ภายในปี ค.ศ. 2027 หนึ่งในอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาก คือ การผลิตคอนกรีต ซึ่งเป็นวัสดุก่อสร้างหลักที่ใช้กันทั่วโลก โดยเฉพาะในการผลิตปูนซีเมนต์ที่เป็นส่วนประกอบหลักของคอนกรีตในการสร้างอาคารบ้านเรือน ปัจจุบันอาคารทั่วโลกมีสัดส่วนในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึงร้อยละ 39 ของการปล่อยก๊าซทั้งหมดจากการใช้พลังงาน โดยร้อยละ 28 มาจากการใช้พลังงานในการทำความร้อน ความเย็น และการใช้ไฟ้ฟ้า และมาจากวัสดุก่อสร้างรวมกับกระบวนการก่อสร้างอีกร้อยละ 11 บทความนี้จะพาไปรู้จักกับนวัตกรรมที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ นั่นคือ “CO2 Concrete”
CO2 Concrete คือ คอนกรีตที่ใช้ CO2 ในการผลิตโดยเกิดปฏิกิริยาเคมีเปลี่ยนเป็นสารประกอบคาร์บอเนต (Carbonate) ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับคอนกรีต โดย CO2 ที่ใช้นี้มาจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมทั้งโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ นวัตกรรมนี้จึงช่วยลดปริมาณ CO2 ในบรรยากาศได้ นอกจากนี้ ยังสามารถนำขยะจากการก่อสร้าง เช่น เศษหิน อิฐ เซรามิก ดิน และทราย มารีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้เป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิตใหม่ได้ ซึ่งเป็นการช่วยลดปริมาณขยะและการปล่อยก๊าซ CO2 ที่เกิดจากการรื้อถอนอาคารและโครงสร้างต่าง ๆ จำนวนมาก
การผลิต CO2 Concrete ประกอบด้วยกระบวนการหลัก ดังนี้
- การดักจับ CO2 หรือ “Carbon Capture”
ดักจับ ก๊าซ CO2 จากแหล่งปล่อยต่าง ๆ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม การผลิตไฟฟ้าจากฟอสซิล หรือการใช้ระบบ CCS (Carbon Capture and Storage) เพื่อดักจับ CO2 ที่ปล่อยออกจากโรงงานหรืออากาศ
- การผสม CO2 กับ คอนกรีต
นำ CO2 ผสมเข้ากับส่วนผสมของคอนกรีต โดยผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “Carbon Cure” ซึ่งทำให้ CO2 เข้าไปแทนที่แล้วทำปฏิกิริยากับส่วนผสมของคอนกรีตเกิดเป็นสารประกอบแคลเซียมคาร์บอเนต ทำให้คอนกรีตที่ได้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น
ประโยชน์ของ CO2 Concrete
- ลดการปล่อย CO2
CO2 Concrete ช่วยดูดซับ CO2 ซึ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเมื่อเทียบกับกระบวนการผลิตคอนกรีตแบบดั้งเดิม โดยการใช้ CO2 ที่จับได้จากการปล่อยในภาคอุตสาหกรรม
- เพิ่มความแข็งแรงของคอนกรีต
การผสม CO2 กับคอนกรีตไม่เพียงแต่ช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 แต่ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของคอนกรีต เนื่องจากการทำปฏิกิริยาของ CO2 กับส่วนผสมของคอนกรีตทำให้เกิดเป็นคาร์บอเนต ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นที่ความแข็งแรง
- ยืดอายุการใช้งานของโครงสร้าง
คอนกรีตที่มีการผสม CO2 มีแนวโน้มที่จะมีความทนทานและยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น เนื่องจากการผสม CO2 ช่วยเสริมความแข็งแรง และลดการเกิดการแตกหักหรือความเสียหายจากปัจจัยต่าง ๆ
- สร้างอนาคตที่ยั่งยืน
การพัฒนา CO2 Concrete ช่วยให้อุตสาหกรรมการก่อสร้างสามารถเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่ต้องพึ่งพากระบวนการผลิตที่ก่อให้เกิดมลพิษ สิ่งนี้ช่วยให้มีการก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมคาร์บอนคอนกรีตยังเผชิญความท้าทายในเรื่องต้นทุนและโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เพียงพอในบางประเทศ แต่ก็ยังได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางที่จะพัฒนาเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนและการเปลี่ยนของเสียจากการก่อสร้างเป็นวัสดุใหม่ ทั้งนี้ คาร์บอนคอนกรีตเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำพาอุตสาหกรรมการก่อสร้างไปสู่ความยั่งยืน
แหล่งข้อมูล
[1] https://thekey.news/columnists/energykey/189153/
[2] https://www.concreteconstruction.net/how-to/concrete-production-precast/making-concrete-with-carbon-dioxide_o
[3] https://www.designingbuildings.co.uk/wiki/Using_CO2_to_make_construction_products_and_materials
[4] https://www.statista.com/chart/28722/global-surface-temperature-anomalies/
[5] https://cronkitenews.azpbs.org/2020/02/03/scientists-concrete-reduces-emissions/
[6] https://theconstructor.org/concrete/curing-concrete-carbon-dioxide/39587/